รายงานข่าวจากสมาคมผู้ค้าปลีกไทยเปิดเผยว่าตามที่สมาคมฯได้มีการลงคะแนนการเลือกตั้งกรรมการบริหารชุดใหม่เพื่อดำรงตำแหน่งและดำเนินงานในปี2565-2567เมื่อวันที่20กรกฎาคม2565และมีการเสนอชื่อและประกาศให้นายญนน์โภคทรัพย์ดำรงตำแหน่งประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทยสมัยที่2อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่17สิงหาคม2565นับเป็นประธานคนที่11ที่ได้รับความไว้วางใจจากกรรมการบริหารและสมาชิกของสมาคมฯ
ตลอดระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งในสมัยที่ 1 ที่ผ่านมา (ปี 2563-2565) นายญนน์ โภคทรัพย์ ได้ดำเนินนโยบายร่วมกับกรรมการบริหาร และสมาชิก รวมไปถึงภาคีเครือข่ายสมาคมฯ โดยการวางรากฐาน และเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงทุกภาคส่วน เพื่อพัฒนาภาคค้าปลีกไทย และสนับสนุนภาคีเครือข่ายแบบครบวงจร แม้ในช่วงเวลาดังกล่าว ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลกระทบจากโควิด และความผันผวนของเศรษฐกิจที่ส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมให้กับธุรกิจภาคค้าปลีกไทย
ทั้งนี้ผลงานที่โดดเด่นของคณะทำงานสมัยที่1มีดังนี้
1.ผนึกกำลังกับหน่วยงานภาครัฐและประสานการทำงานร่วมกับหอการค้าไทยและสมาคมต่างๆในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของภาคธุรกิจและประชาชนในช่วงการแพร่ระบาดของโควิดอาทิการสนับสนุนพื้นที่จุดฉีดวัคซีนและการสร้างระบบการกระจายวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและครบวงจร(Total Solutions)ให้กับภาคีเครือข่ายประชาชนและแรงงานชาวต่างชาติ
2. ผลักดันมาตรการต่างๆ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ในการขับเคลื่อนธุรกิจค้าปลีก อาทิ เป็นตัวกลางในการร่วมมือกับภาคีเครือข่าย และสมาคมฯ ต่างๆ เช่น สมาคมศูนย์การค้าไทย สมาคมภัตตาคารไทย ในการผลักดันให้มีการเดินหน้าเปิดธุรกิจอย่างปลอดภัยหลังล็อกดาวน์คำพูดจาก pg เว็บตรง
3.ช่วยฟื้นฟูSMEsให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้สะดวกและรวดเร็วเพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องลดความเหลื่อมล้ำและช่วยให้SMEsสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างเป็นธรรมรวมทั้งช่วยขยายและเพิ่มช่องทางการขายผ่านภาคีเครือข่ายของสมาคมฯเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ
4. กระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยเหลือผู้บริโภค ผ่านการตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ด้วยการร่วมมือกับผู้ผลิตสินค้าล็อกราคา เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้บริโภค และ ได้ริเริ่มโครงการที่เน้นการกิน เที่ยว ใช้ ของไทย เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ
5.ร่วมมือกับองค์กรธุรกิจค้าปลีกระหว่างประเทศFAPRAเพื่อยกระดับภาคค้าปลีกไทยสู่ตลาดโลก
สำหรับวาระที่2นี้นายญนน์โภคทรัพย์ได้มีการเสริมความแข็งแกร่งของคณะทำงานเพิ่มเติมและมีแผนงานที่จะสานต่อนโยบายเพื่อยกระดับและวางมาตรฐานของภาคค้าปลีกไทยสู่ตลาดโลกพร้อมพัฒนาภาคค้าปลีกไทยให้เป็นนิวแชพเตอร์ในการเดินหน้าเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน